ผ่านมาเกือบ 1 ปี ถึงได้มีโอกาสเขียน...
ท่ามกลางสภาวะที่โรคระบาด Covid-19 ถาโถมเข้ามาทุกวัน ไม่ได้ไปไหนเลย จนถึงช่วงที่ Covid รอบแรกหมดลง เลยได้มีความคิดที่จะเที่ยวคนเดียว ซึ่งที่จริงก็มีความคิดอยากจะไปอยู่แล้ว แต่ไม่มีโอกาสซักที จนถึงวันที่เราต้องออกเดินทางจริงๆ
Day1 4 ก.ย.63 เวลา 0600 ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย ณ สถานีหัวลำโพง โชคยังดีที่เดินทางมาตอน ฝนกำลังตกเบาๆ เลยไม่เปียกมากนัก มาถึงก็ได้จองตั๋วรถไฟ ได้ขึ้นรถตอน 0715 จนมาถึงตอน 0900 ก็ถึงจุดหมาย
พอถึงที่หมายแล้ว เราก็เริ่มหิว มาถึงอยุธยาแล้ว เราก็ต้องหาของอร่อยๆ ของที่นี่ ซึ่งก็คือ...
ใช่.. มันคือก๋วยเตี๋ยวเรือ (ไม่ใช่แป้ง😆😆) หลังจากที่ทานจนอิ่มแล้ว เราก็เริ่มการเดินทางเข้าที่พัก โดยผมลองเช็คจาก google Map จากร้านก๋วยเตี๋ยว ไปถึงที่พัก ประมาณ 2 กม. เลยตัดสินใจที่จะเดินไป เพื่อที่จะได้ชมวิวระหว่างทางไปด้วย เดินมาได้ซักครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงที่พักที่จองไว้
บุษบา อยุธยา เป็นที่พักที่ผมได้จองไว้ เป็น Hostel ที่ผมได้จองไว้ก่อนเดินทาง
เช็คอินเรียบร้อย
หลังจากเช็คอินแล้ว ก็ได้เวลาเลือกพาหนะคู่ใจในการเดินทาง
พาหนะคู่ใจที่จะอยู่กับผมไปอีก 1 วัน
ได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว ที่แรกที่ผมไปก็คือ วัดหน้าพระเมรุ เป็นหนึ่งในไม่กี่วัดในอยุธยาที่ไม่ถูกทำลายจากการเสียกรุงครั้งที่ 2 ทำให้ศิลปะยังคงความงดงามจนถึงปัจจุบัน
พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องที่ใหญ่ที่สุด เป็นศิลปะสมัยอยุธยาที่ยังคงความงดงามจนถึงปัจจุบัน
พระคันธารราฐประทับนั่งห้อยพระบาท
ศิลปะสมัยทวาราวดี ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3
ออกจากวัดหน้าพระเมรุ แล้วก็มาต่อกันที่วัดมหาธาตุเป็นวัด ที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางของเมืองในสมัยนั้น มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิเช่น เศียรพระพุทธรูปที่ถูกปกคลุมด้วยรากต้นไม้จนเป็น Unseen in Thailand เป็นต้น
|
วัดมหาธาตุ |
|
ซากฐานพระปรางค์วัดมหาธาตุ |
|
เศียรพระพุทธรูปที่ถูกปกคลุมด้วยรากไม้ |
หลังจากออกจากวัดมหาธาตุแล้วก็เดินข้ามถนนมายังวัดราชบูรณะ เป็นวัดที่อยู่ตรงข้ามกับวัดมหาธาตุ มีสิ่งที่น่าสนใจคือพระปรางค์ที่เคยเป็นที่เก็บสิ่งของมีค่าที่ยังหลงเหลือหลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยา เรียกกันว่ากรุวัดราชบูรณะ
|
พระปรางวัดราชบูรณะ
|
|
วัดราชบูรณะ |
หลังจากออกจากวัดราชบูรณะแล้ว ก็ได้เวลาของมื้อเที่ยงประกอบกับแดดเริ่มร้อน จึงได้ตัดสินใจกลับไปทานข้าวเที่ยงในที่พักและพักเอาแรง
|
สปาเก็ตตี้กับน้ำอัญชันน่าจะเข้ากันดี
|
หลังจากทานมื้อเที่ยงแล้ว ก็ได้เวลาควบพาหนะคู่ใจเดินทางกันต่อ สถานที่ต่อไปที่จะไปก็คือวัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา คือเป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง คล้ายๆกับวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้วในปัจจุบัน มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจคือ พระสถูปเจดีย์ขนาดใหญ่จำนวน 3 องค์ ที่ตั้งอยู่ในวัดนี้ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 และสมเด็จพระราชาธิบดีที่ 2
|
พระสถูปเจดีย์ 3 องค์ |
|
บรรยากาศภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์
|
หลังจากออกจากวัดพระศรีสรรเพชญ์แล้วก็ได้เดินมายังไม่วิหารพระมงคลบพิตรซึ่งอยู่ใกล้กัน ซึ่งพระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นความเชื่อในสมัยอยุธยาเรื่องการสร้างพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ โดยพระมงคลบพิตรได้รับความเสียหายจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แต่ได้รับการบูรณะใหม่ทำให้ยังคงความงดงามในปัจจุบัน
|
วิหารพระมงคลบพิตร
|
|
พระมงคลบพิตร
|
ออกจากวัดมงคลบพิตรก็ตกเย็นมากแล้ว ก็ได้เข้าที่พักโดยหาซื้อของกินแถวตลาดก่อนเข้าที่พัก แล้วพบกันใหม่ตอนเช้าครับ
|
บรรยากาศยามเย็น ณ บุษบา อยุธยา |
|
ที่นอนคืนนี้ น่านอนมาก
Day2 5 ก.ย.63 เวลา 0700 หลังจากตื่นขึ้นมา ก็ได้ควบพาหนะคู่ใจ (คันเดิม) ไปยังตลาดเช้าเพื่อที่จะไปหาทานอาหารเช้า แต่ได้จับ GPS หาที่เที่ยวใกล้ๆ ปรากฏว่าเจอวัดแม่นางปลื้มที่อยู่ใกล้ตลาด จึงได้เดินทางไปยังวัดแม่นางปลื้มก่อน ซึ่งมีจุดน่าสนใจคือ หลวงพ่อขาวที่งดงามมาก เป็นศิลปะสมัยอยุธยา และเป็นอีกหนึ่งวัดที่ไม่ถูกทำลายคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เลยทำให้ยังคงความงดงามมาจนถึงปัจจุบัน |
วัดแม่นางปลื้ม
|
วิหารหลวงพ่อขาว
|
|
หลวงพ่อขาว |
หลังจากออกจากวัดแม่นางปลื้มแล้วก็ได้เวลาของอาหารเช้าเบาๆ (เบาหรือเปล่าก็ไม่รู้)
|
อาหารเช้าเบาๆ (ที่ไม่เบา)
|
หลังจากทานมื้อเช้า ก็ได้เวลาออกทัวร์กันต่อ มีเวลาอยู่พอสมควร จึงได้ปั่นพาหนะคู่ใจ ไปยังพิพิธภัณฑ์สถานจันทร์เกษม
|
บัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจันทรเกษม
|
|
โบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์ สถานแห่งชาติจันทรเกษม |
|
โบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์ สถานแห่งชาติจันทรเกษม
ได้เวลาออกเดินทางกันต่อ กลับเข้าสู่ที่พักเพื่อเตรียมเช็คเอาท์ Let's Go
หลังจากเช็คเอาท์แล้ว ก็เตรียมตัวกลับเข้า กทม. ยังพอมีเวลา อยากมีเวลาเที่ยวนิดหน่อย เลยได้มาที่นี่
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
บัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
เศียรพระธรรมิกราช ซึ่งได้นำมาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
โบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์สถาน แห่งชาติเจ้าสามพระยา
โบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์สถาน แห่งชาติเจ้าสามพระยา
ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนก็ตาม หลายคนก็มักจะมีของสะสมเพื่อเก็บเป็นคอลเล็คชั่นของตัวเอง ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งผมชอบสะสมแม็กเน็ต แล้วคุณล่ะชอบสะสมอะไร มาบอกกันได้นะครับ ของสะสมของผม
ได้เวลากลับแล้วสิ เวลาหมดลงเร็วมาก นี่ก็เที่ยงแล้ว ได้เวลาต้องไปที่สถานีรถไฟอยุธยาเพื่อที่จะกลับเข้าสู่ กทม.
สถานีรถไฟอยุธยา
ซื้อตั๋วกลับเรียบร้อย
แค่นี้ก็เดินทางกลับได้แล้ว Let's Go กลับมาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงโดยสวัสดิภาพ
จบกันแล้วนะครับสำหรับการบรรยายการเดินทางทริปแรกของผม ขอบคุณทุกท่านที่รับชมครับ คราวหน้าจะไปที่ไหนกันต่อ อย่าลืมติดตามกันนะครับ 🙏🙏🙏
|
ติดตามโพสต่อไปอยู่นะครับ
ตอบลบ